ใช้ยาคลายเครียดให้ถูกวิธี


รู้เรื่องยากับเภสัชจุฬาฯ : ใช้ยาคลายเครียดให้ถูกวิธี

วันจันทร์ ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

    สัปดาห์ก่อนเขียนเรื่องความเครียดและการจัดการแก้ความเครียดไปแล้ว ก็มีคำถามว่า ผู้ที่ต้องใช้ยาตัวนี้มีความกังวลว่าใช้ยาแล้วจะมีผลเสียต่อร่างกายในระยะสั้นและยาวอย่างไรบ้าง สัปดาห์นี้จะขยายความเรื่องยาคลายเครียด เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น

    ก่อนอื่นต่องย้ำว่า ยาคลายเครียดหรือยารักษาอาการวิตกกังวล ต้องสั่งโดยแพทย์หรือจิตแพทย์เท่านั้น คนที่กำลังเครียดและอยากจะใช้ยาคลายเครียดจึงต้องไปพบแพทย์ เพื่อประเมินความจำเป็น และการเลือกใช้ยาให้เหมาะสมที่สุด เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีข้อห้ามใช้ยาตัวนี้

    ยาคลายเครียดมีหลายกลุ่ม และแต่ละกลุ่มมีข้อห้าม หรือข้อควรระวังการใช้แตกต่างกัน ยาบางชนิด เช่น ยากลุ่มเบนโซไดอะซีปีน (benzodiazepine) ห้ามใช้กับคนที่มีประวัติติดสารเสพติด หรือแอลกอฮอล์ เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ หญิงตั้งครรภ์ (โดยเฉพาะช่วงไตรมาสแรก) หญิงให้นมบุตร และผู้ป่วยตับทำงานผิดปกติรุนแรง

    ยาอีกกลุ่มที่ถูกใช้สำหรับผู้ที่มีภาวะเครียดหรือวิตกกังวล ได้แก่ ยาต้านเศร้ากลุ่มเอสเอสอาร์ไอ (SSRI, selective serotonin reuptake inhibitors) รวมถึง โรคต้านเศร้ากลุ่มเอสเอ็นอาร์ไอ (SNRI, serotonin and norepinephrine reuptake inhibitors) ซึ่งมียาหลากหลายรายการที่อยู่ในกลุ่มนี้ แต่ละตัวก็มีข้อควรระวังและข้อห้ามใช้แตกต่างกัน บางตัวห้ามใช้ในหญิงมีครรภ์ บางตัวห้ามใช้เมื่อตับไตผิดปกติ บางตัวห้ามใช้ในคนที่มีคลื่นไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ หรือมีโรคต้อหิน เป็นต้น

    ส่วนผู้ที่กำลังใช้ยาอยู่ เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ ก็อย่าเพิ่งกังวลใจแล้วเลิกใช้ยาด้วยตัวเอง เพราะกลัวตับอักเสบ ไตวาย เพราะการจะเลิกใช้ก็ต้องปรึกษาแพทย์ก่อน และต้องบอกว่าถ้าได้รับยาจากแพทย์ แล้วไปตรวจตามนัดสม่ำเสมอ ก็ไม่ต้องกังวล เพราะทุกครั้ง แพทย์ต้องเช็คสิ่งที่ต้องตรวจตามระยะเวลาที่เหมาะสม แต่ถ้าต้องได้ยาจากแพทย์ แต่ไม่สะดวกไปพบแพทย์ แล้วดันไปซื้อยาจากร้านยาเอง ซึ่งยาบางชนิดสามารถซื้อได้ แต่อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่าต้องกลับไปพบแพทย์เพื่อประเมินอาการตามแพทย์นัดอย่างเคร่งครัด

    สำหรับภาวะวิตกกังวลที่จำเป็นต้องใช้ยา โดยแต่ละคนอาจได้รับการรักษา และใช้ยาแตกต่างกันไป โดยระยะเวลารักษาอาจกินเวลานาน บางรายอาจเป็นเดือนไปจนถึงเป็นปี ทั้งนี้ขึ้นกับความรุนแรงของอาการ บางคนพอรู้สึกดีขึ้นเพียงเล็กน้อย ก็เลิกกินยาเอง แต่ที่จริงแล้วยาเพิ่งจะปรับสมดุลสารเคมีในสมอง หรือควบคุมอาการเท่านั้น แต่เมื่อหยุดยาเอง อาการก็กลับเป็นซ้ำ แล้วอาจรุนแรงมากขึ้น แต่ตามปกติ เมื่อแพทย์พิจารณาแล้วเห็นควรให้หยุดยา ก็ไม่ได้ให้หยุดยาทันที เพราะแพทย์ต้องค่อย ๆ ลดการใช้ยาลงตามความเหมาะสม เพื่อป้องกันอาการขาดยา

โดยสรุป เมื่อจำเป็นต้องใช้ยาคลายเครียด โดยใช้ยาอย่างมีประสิทธิผลและปลอดภัยสูงสุด จำเป็นต้องทำดังนี้

    (1) ใช้ยาตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่ลืม ไม่ลด ไม่งด ไม่หยุดยา หรือเพิ่มขนาดยาเอง แต่ในกรณีลืมจริง ๆ ให้กินยาทันทีเมื่อนึกได้ แต่ถ้านึกได้เมื่อใกล้กับการกินยามื้อถัดไป ให้กินยามื้อถัดไปตามปกติ แต่ห้ามกินยาเป็น 2 เท่าเพราะอาจเกิดอันตรายจากขนาดยาสูงเกินไป

    (2) สังเกตอาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากการใช้ยา เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ง่วงนอน ใจสั่น แล้วปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อปรับการใช้ เพราะอาการบางอย่างอาจเกิดขึ้นในช่วงแรก เมื่อใช้ยาไปสักพักก็จะดีขึ้น อาการบางอย่างอาจแก้ไขได้โดยการปรับเปลี่ยนเวลากินยาให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วย

    (3) ไม่หยุดยาเองกะทันหัน ไม่ว่าจะเป็นด้วยสาเหตุยาหมด หรือรู้สึกว่าอาการดีขึ้น แล้วอยากรู้ว่าเมื่อหยุดยาแล้วจะมีอาการอย่างไร เพราะเสี่ยงต่อการรักษาไม่ได้ผล

    (4) ไม่นำยาของคนอื่นมาใช้ หรือเอายาของตนเองไปให้คนอื่นใช้ เพราะอาจไม่ตรงกับโรค ไม่เหมาะกับสภาวะบางอย่างของผู้ป่วยแต่ละราย ที่สำคัญคือการทำเช่นนั้นอาจจะทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ

    (5) ไปพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอเพื่อติดตามผลการรักษา

    (6) ถ้าจำเป็นต้องใช้ยาอื่นร่วมด้วยในการรักษาโรคหรือภาวะอื่นใด ต้องแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อประเมินว่ายาคลายเครียดที่ใช้อยู่นั้นตีกับยาอื่นที่ต้องใช้หรือไม่

    (7) ห้ามกินยาร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และหากยามีผลทำให้ง่วง ก็ต้องหลีกเลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะ หรือควบคุมเครื่องจักร

รศ.ภก.ดร.บดินทร์ ติวสุวรรณ และรศ.ภญ.ดร.ณัฏฐดา อารีเปี่ยม

คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น คุณสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ โดยมีจุดประสงค์คือนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราอาจไม่สามารถวัดผลเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นได้

บันทึก

Leave Comment

 
 
Contact : 254 ถนนพญาไท เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
02-218-8257
Email: info@pharm.chula.ac.th
ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับยา สุขภาพหรือนวัตกรรมของคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ที่ Line official @guruya หรือเว็บไซต์ https://www.pharm.chula.ac.th/guruya/