ยุง นำมาสารพัดโรค


รู้เรื่องยากับเภสัชจุฬาฯ : ยุง นำมาสารพัดโรค

วันจันทร์ ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2566, 07.30 น.

    อย่าให้ยุงกัด เดี๋ยวเป็นโรคไข้เลือดออก เรามักได้ยินคำเตือนแบบนี้บ่อยๆ ซึ่งก็จริงอยู่ แต่ทว่าคนที่ถูกยุงกัดจะไม่ได้เป็นแค่โรคไข้เลือดออกเท่านั้น เพราะยังมีโรคอื่นๆ ตามมาด้วย ขึ้นอยู่กับชนิดของยุง

    ในช่วงฝนตกบ่อย แล้วมีน้ำขังตามที่ต่างๆ สภาพมีน้ำขังจะทำให้การแพร่ขยายพันธุ์ยุงลายได้ดี เมื่อยุงลายชุกชุมมากๆ ก็เป็นพาหะนำโรคมาสู่คนและสัตว์ได้โดยง่าย ยุงลายนำมาซึ่งโรคไข้เลือดออก ไข้ปวดข้อ จากเชื้อไวรัสชิคุนกุนยา และไข้ซิกา จากเชื่อไวรัสซิกา

    สัปดาห์นี้ขอกล่าวถึงอีก 2 โรค อันเกิดจากยุงลาย คือไข้ปวดข้อยุงลาย และไข้ซิก้า ไข้ปวดข้อยุงลาย เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชิคุนกุนยาหลังจากถูกยุงลายกัด อาการโดยทั่วไปคล้ายคลึงกับไข้เลือดออกมากแต่อาการที่เด่นชัดมากกว่าคืออาการปวดข้อ ปวดกระดูกไข้ปวดข้อยุงลายไม่มียาใช้รักษาเฉพาะ มีแต่การให้ยารักษาตามอาการ แม้ว่าการป่วยจากเชื้อไวรัสชนิดนี้จะไม่ได้ทำให้เกิดภาวะเกล็ดเลือดต่ำและเลือดออกได้เหมือนกับไข้เลือดออก แต่ถ้าเกิดโรคในผู้ป่วยที่เป็นเด็กเล็กหรือกลุ่ม 608 ที่ไม่แข็งแรง อาการป่วยก็จะรุนแรง จนต้องนำตัวไปรับการรักษาที่โรงพยาบาล

    สำหรับสถานการณ์การระบาดของไข้ปวดข้อยุงลาย ล่าสุดจนถึงประมาณวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 พบผู้ติดเชื้อแล้ว 598 ราย แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ในปีนี้

    โรคต่อมาคือ ไข้ซิกา ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสซิกาซึ่งมียุงลายเป็นพาหะเช่นกัน อาการของโรคก็ไม่แตกต่างกันมากกับไข้ปวดข้อยุงลาย ก็คือ มีไข้ ตาแดง มีผื่นขึ้น ปวดหัว ปวดเมื่อย ซึ่งก็ใช้วิธีรักษาตามอาการเช่นเดียวกับทั้งไข้เลือดออกและไข้ปวดข้อยุงลาย แต่ที่ต้องระวังเป็นพิเศษสำหรับไข้ซิกาคือ การติดเชื้อในหญิงมีครรภ์ เพราะไวรัสชนิดนี้สามารถติดต่อไปยังทารกได้ และทำให้ทารกพิการทางระบบประสาทและสมอง คลอดออกมามีความผิดปกติ เช่น ศีรษะเล็ก พัฒนาการช้า เป็นต้น

    ดังนั้น นอกจากการระวังไม่ให้ถูกยุงกัด หากเกิดไข้ระหว่างตั้งครรภ์ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจว่าเป็นไข้ซิกาด้วย เพราะหากเป็นไข้ซิกาขึ้นมาจริงๆ ก็จะต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ที่ไปฝากครรภ์

    สำหรับสถานการณ์การระบาดของไข้ซิกาในปีนี้ จนถึง 9 สิงหาคม 2566 พบผู้ป่วยแล้ว 172 ราย แม้จะไม่มากเท่าไข้ปวดข้อยุงลาย แต่ผลกระทบน่ากังวลมากกว่า

    สำหรับไข้จากยุงลายทั้ง 3 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นไข้เลือดออก ไข้ปวดข้อยุงลาย หรือไข้ซิกา คำแนะนำเกี่ยวกับการบรรเทาอาการไข้คือ ควรเช็ดตัวและหรือยาลดไข้บรรเทาปวดพาราเซตามอลเท่านั้น ไม่ควรใช้ยาลดการอักเสบกลุ่มที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า NSAIDs (เช่น ไอบูโพเฟน แอสไพริน เป็นต้น) เพราะอาจเป็นอันตรายจากผลข้างเคียงของยาได้ เช่น ระคายเคืองกระเพาะ เลือดออกหรือเกิดแผลในกระเพาะ หรืออาจเป็นพิษต่อไตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าใช้ยาในกลุ่ม NSAIDs ในกรณีของไข้เลือดออกยิ่งอันตรายต่อผู่ป่วยมาก

    ในรายที่ไข้สูงและมีภาวะขาดน้ำร่วมด้วย หากเช็ดตัวและใช้ยาลดไข้พาราเซตามอลแล้วอาการไม่ดีขึ้นภายใน 24-48 ชั่วโมงก็ควรพาผู้ป่วยไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ประเมินว่าต้องได้รับการรักษาอื่นเพิ่มเติมหรือไม่

    สำหรับในกลุ่มผู้ที่ก่อนจะป่วยด้วยโรคนี้ แต่ไม่ได้มีปัญหาสุขภาพอะไรมากนัก ไข้ซิการวมทั้งไข้ปวดข้อยุงลายมักจะหายได้เอง แต่สำหรับเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวที่ส่งผลทำให้ภูมิคุ้มกันทำงานได้ไม่เต็มที่ การติดเชื้อก็อาจรุนแรงจนต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล

    อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือ การป้องกันไม่ให้ยุงกัดตั้งแต่แรก รวมถึงการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย โดยปฏิบัติการ 3 เก็บ ได้แก่ เก็บบ้านให้สะอาดไม่ให้ยุงลายมาเกาะพัก เก็บขยะให้มิดชิดไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายและเก็บน้ำให้มิดชิด ไม่ให้ยุงลายไปวางไข่ หากทำได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งในบ้านของเราและชุมชนรอบๆ ก็จะลดโอกาสเสี่ยงไข้ทั้งสามอย่างจากยุงลายตัวร้ายได้

ผศ.ภก.ดร.บดินทร์ ติวสุวรรณ และรศ.ภญ.ดร.ณัฏฐดา อารีเปี่ยม

คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น คุณสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ โดยมีจุดประสงค์คือนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราอาจไม่สามารถวัดผลเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นได้

บันทึก

Leave Comment

 
 
Contact : 254 ถนนพญาไท เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
02-218-8257
Email: info@pharm.chula.ac.th
ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับยา สุขภาพหรือนวัตกรรมของคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ที่ Line official @guruya หรือเว็บไซต์ https://www.pharm.chula.ac.th/guruya/