ยาแก้เครียด ใช้อย่างไร


รู้เรื่องยากับเภสัชจุฬาฯ : ยาแก้เครียด ใช้อย่างไร

วันจันทร์ ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2566, 07.45 น.

   ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนจำนวนไม่น้อยมีความเครียด แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะเครียดไปเสียทั้งหมด บางคนเครียดจริง แต่แก้ความเครียดได้ด้วยกิจกรรมต่างๆ เช่น ออกกำลังกาย สวดมนต์ไหว้พระ ช่วยเหลือคนอื่นๆ ที่ด้อยกว่า ก็หายเครียดได้

   แต่สำหรับคนที่เครียดนั้น บางคนเครียดจัดมาก แล้วหาทางแก้ไม่ได้ บางคนเครียดตั้งแต่วัยเด็ก เช่น เครียดเพราะเรื่องการเรียน เครียดเพราะถูกเพื่อนแกล้ง เด็กบางคนเครียดจนไม่อยากไปโรงเรียน เพราะไปแล้วไม่มีความสุข ส่วนผู้ใหญ่หลายคนก็เครียดหนักมาก เครียดเพราะงาน แต่บางคนก็เครียดเพราะไม่มีงานทำ เครียดเรื่องภายในครอบครัว เครียดเรื่องคู่ครอง และลูก บางคนเครียดเพราะการเงิน เครียดเพราะการเมือง เครียดเพราะอากาศร้อนมากไป ฝนตกมากไป สารพัดจะเครียด

   เมื่อดูจากผลการสำรวจสุขภาพประชาชนไทย เมื่อปี 2562-2563 พบว่าคนที่อายุ 15 ปีขึ้นไป ร้อยละ 2.9 ต้องกินยาคลายเครียด หรือยานอนหลับเป็นประจำ

   เรามาทำความรู้จักกันก่อนว่าความเครียดคืออะไร ความเครียดคืออาการที่เกิดจากปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกาย จิตใจ และสติปัญญาของแต่ละบุคคลต่อเหตุการณ์ที่มาคุกคาม

   แต่ในอีกมุมหนึ่ง ความเครียดก็มีประโยชน์บ้าง คือทำให้บุคคลตื่นตัว เตรียมรับมือกับสถานการณ์ไม่ปกติที่จะเกิดขึ้น แต่ก็มีผลเสียด้วยเช่นกัน เช่นในกรณีที่ความเครียดมากหรือนานเกินไป หรือไม่สามารถหาทางจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสม

   ความเครียดจะส่งผลให้เกิดอาการ และโรคภัยไข้เจ็บทางกายต่อไปได้ เช่น นอนไม่หลับ ตื่นตระหนก วิตกกังวล ซึมเศร้า เป็นต้น

   เมื่อความเครียดส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน การใช้ยาคลายเครียดจึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการแก้ปัญหานี้ เพราะยาคลายเครียดจัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ผู้ที่มีอาการเครียดจึงต้องไปพบแพทย์เพื่อให้แพทย์สั่งยาให้รับประทาน

   ยาคลายเครียด (anti-anxiety or anxiolytics) มีหลายกลุ่ม กลุ่มที่นิยมใช้มากที่สุดและมักถูกเลือกเป็นชนิดแรกหากไม่มีข้อห้ามใช้คือกลุ่มยา benzodiazepines ตัวอย่างยาในกลุ่มคือ lorazepam, alprazolam, clonazepam, diazepam เป็นต้น

   ยาเหล่านี้ไม่ได้มีแต่ฤทธิ์ช่วยคลายเครียดเท่านั้น ตัวยาเองยังมีอาการข้างเคียงหลายอย่าง อาทิ กดประสาทส่วนกลาง ทำให้ง่วงนอน ทำให้สับสน หลงๆ ลืมๆ จำเหตุการณ์ต่างๆ ไม่ได้ฝันร้าย ผู้ป่วยบางรายกินยาแล้วทำให้การตอบสนองของร่างกายช้าลง พูดติดขัด หายใจช้าลงหรือหายใจติดขัด ความดันเลือดต่ำคลื่นไส้ เป็นต้น

   ดังนั้น แพทย์จึงมักสั่งให้กินยาคลายเครียดตอนก่อนนอน และห้ามกินยาพร้อมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะยิ่งทำให้กดประสาทมากขึ้น โดยทั่วไปการใช้ยาคลายเครียดจะใช้เป็นเวลาสั้นๆ เท่านั้น เรียกว่าเป็นการแก้ไขเฉพาะหน้า ให้ผู้ป่วยพอจะนอนได้ กินได้ โดยหวังว่าในเวลาไม่นานนักเรื่องที่ทำให้ผู้ป่วยเครียดจะหมดไป เพราะผลข้างเคียงที่น่าวิตกที่สุดของยากลุ่มนี้คือการติดยาซึ่งอาจจะเป็นเพียงความรู้สึกของผู้ป่วยว่าถ้าไม่มียาก็จะจัดการความเครียดเองไม่ได้ หรือเป็นการติดยาจริงๆ คือต้องการยาในขนาดมากขึ้น หรือหากไม่ได้ใช้ยาก็จะเกิดอาการถอนยา ซึ่งความเสี่ยงในการติดยาก็จะเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาของการใช้ยา ซึ่งโดยทั่วไปการใช้ยาเพียง 2-3 สัปดาห์นั้น มีความเสี่ยงต่ำมากที่จะติดยา

   ตัวอย่างข้อห้ามหรือข้อควรระวังการใช้ยาคลายเครียดกลุ่ม benzodiazepines เช่น การแพ้ยา คนที่มีโรคปอดและทางเดินหายใจเพราะยานี้กดการหายใจได้ ผู้สูงอายุ คนที่ตับไตไม่ดี อาจต้องพิจารณาเลือกยาอย่างระมัดระวัง อาจต้องปรับขนาดยาตามการทำงานของอวัยวะที่บกพร่อง เพราะการใช้ยาขนาดปกติอาจจะกลายเป็น overdose ได้

   ผู้ป่วยที่กำลังใช้ยาบางชนิดอยู่ต้องตรวจสอบก่อนว่ายาที่ใช้ไม่ตีกับยาคลายเครียด ตัวอย่างยาที่ตีกับยากลุ่มนี้ได้ก็เช่นยาแก้ปวด ยาต้านเศร้า ดังนั้นหากผู้ป่วยต้องใช้ยาเหล่านี้ร่วมกันก็ควรผ่านการตรวจสอบจากเภสัชกรก่อนเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

   โดยสรุป เมื่อบุคคลต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ทำให้เครียดจนไม่สามารถรับมือด้วยตนเองได้ การใช้ยาในระยะสั้นๆ อาจมีความจำเป็น ยาคลายเครียดที่ถูกเลือกใช้เป็นอันดับแรกมากที่สุดได้แก่ยากลุ่ม benzodiazepines ซึ่งมีสรรพคุณลดความวิตกกังวลที่มากเกินไปในผู้ป่วย ทำให้ทุเลาจากอาการที่เกิดจากความเครียดเช่นนอนไม่หลับ

   อย่างไรก็ตาม ยากลุ่มนี้มีผลข้างเคียงหลายอย่างรวมกันถึงทำให้ติดยาได้ การใช้ยาจึงควรอยู่ในความดูแลของแพทย์และเภสัชกรอย่างใกล้ชิด และที่สำคัญคือเราต้องเรียนรู้การจัดการความเครียด และฝึกที่จะผ่อนคลาย เช่น การออกกำลังกาย ลดหรือเลี่ยงกาแฟ และอย่าพึ่งเหล้า หรือสารเสพติดใดๆ เพราะทำให้ร่างกายเราแย่ลง

ผศ.ภก.ดร.บดินทร์ ติวสุวรรณ และรศ.ภญ.ดร.ณัฏฐดา อารีเปี่ยม

คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น คุณสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ โดยมีจุดประสงค์คือนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราอาจไม่สามารถวัดผลเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นได้

บันทึก

Leave Comment

 
 
Contact : 254 ถนนพญาไท เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
02-218-8257
Email: info@pharm.chula.ac.th
ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับยา สุขภาพหรือนวัตกรรมของคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ที่ Line official @guruya หรือเว็บไซต์ https://www.pharm.chula.ac.th/guruya/